Amarok Network Upgrade คืออะไร ? มาแก้ปัญหาอะไรบ้าง ?

Amarok คือการอัพเกรดเครือข่ายครั้งแรกของ Connext มันรวมการเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางในโปรโตคอลหลักของ Connext และแก้ปัญหาสำคัญหลายประการที่ผู้ใช้ นักพัฒนา และเราเตอร์ต้องเผชิญ

Amarok เปิดใช้งานธุรกรรมที่ลดการใช้ความไว้ใจลงให้ได้มากที่สุด ด้วยการเป็น partner กับ Nomad (optimistic bridge)

“Connext สามารถใช้การสื่อสารที่ถ่ายทอดอย่างเต็มที่และลดการไว้วางใจให้เหลือน้อยที่สุดกับเครือข่ายที่รองรับ อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกนี้มาพร้อมกับการแลกเปลี่ยนคือdelay 30 นาที”

Amarok Network Upgrade การอัปเกรดนี้ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?

• ปัญหาสำหรับผู้ใช้

1. ปัญหาสำหรับผู้ใช้ปลายทาง ค่าธรรมเนียม (Gas cost) : ในปัจจุบันการที่จะทำธุรกรรม cross-chain อาศัยกระบวนการเตรียม/ดำเนินการ สองเฟสเพื่อทำธุรกรรมให้เสร็จสิ้นซึ่งการทำหลายธุรกรรมจะเป็นเรื่องยาก

2. การเซ็นเพื่อทำธุรกรรม (Signing to Claim) : การจะทำธุรรมกรรมต่างๆ จะต้องมีการ Sign ก่อน ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ Connext ใช้ความไว้วางใจน้อยที่สุดได้ แต่เป็นเรื่องที่น่าเบื่อและเสียเวลาเพราะผู้ใช้จะต้อง online ตลอดจนกว่าจะ sign เสร็จ

3. ความเสี่ยงที่สินทรัพย์ของคุณจะติดค้างในระบบ (Fund lockup risk) : ธุรกรรมต่างๆจะมีความสัมพันธ์แบบ 1:1 กับ router หากเราเตอร์นั้นออฟไลน์หรือขาดการเชื่อมต่อ เงินของผู้ใช้อาจติดอยู่จนกว่าธุรกรรมจะหมดอายุ (72 ชั่วโมง)

4. ความเร็วในการทำธุรกรรม (Speed) : เนื่องจากผู้ใช้ถูกผูกไว้กับเราเตอร์ที่กำหนดสำหรับการทำธุรกรรม ความล่าช้าใด ๆ ที่เราเตอร์เฉพาะนั้นจะถูกส่งต่อไปยังผู้ใช้งาน ทำให้การทำธุรกรรมของผู้ใช้งานช้าลงเช่นกัน

5. การกระจายตัวของสภาพคล่อง (Liquidity Fragmentation) : สภาพคล่องที่เราเตอร์จัดหาให้นั้นขึ้นอยู่กับเส้นทาง หมายความว่ามีให้ระหว่างคู่ของเชนที่กำหนด เมื่อจำนวนเชนเพิ่มขึ้น ผู้ใช้จะทำธุรกรรมขนาดใหญ่ได้ยากขึ้น

• ปัญหาสำหรับนักพัฒนา

1. Offchain Auction Dependencies : การผสานรวมส่วนใหญ่ในพื้นที่นั้นเป็นแบบสัญญาเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน Connext ต้องการการเรียกใช้ sdk ฝั่งไคลเอ็นต์เพื่อค้นหาเราเตอร์สำหรับธุรกรรมที่กำหนด

2. Signing to Claim : นักพัฒนาซอฟต์แวร์จำเป็นต้อง sign เพื่อติดตามธุรกรรมที่อยู่ระหว่างดำเนินการและแจ้งให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ในเวลาที่เหมาะสม สิ่งนี้จะเพิ่มค่าใช้จ่ายและความซับซ้อนอย่างมากเมื่อเทียบกับธุรกรรมบน onchain แบบธรรมดา

3. No Generalized Messaging : Connext รองรับการเรียก contracts แบบ crosschains แล้ว แต่สามารถทำได้อย่างปลอดภัยในบางกรณีเท่านั้น ต้องการให้นักพัฒนาเรียนรู้เมื่อไหร่ที่ devsสามารถหรือไม่สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้

• ปัญหาสำหรับเราเตอร์

1. การปรับสมดุล (Rebalancing) : เราเตอร์ส่งเงินใน chain ปลายทางและรับเงินที่ต้นทาง ซึ่งหมายความว่าสภาพคล่องจะเคลื่อนไปมาระหว่างเชนโรลอัพ และอาจติดขัด ทำให้ประสิทธิภาพลดลง

2. การวัดผลตอบแทนจากการลงทุนที่ไม่ชัดเจน (Unclear ROI) : ROI ของเราเตอร์นั้นขึ้นชื่อเรื่องความยากในการติดตามอย่างแม่นยำ เนื่องจากโฟลว์แบบสองเฟสหมายความว่าข้อมูลที่จำเป็นในการติดตามการส่งคืนนั้นกระจัดกระจายไปตามเครือข่ายต่างๆ ซึ่งทำให้ยากต่อการ track

3. Strict Liveness : ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น หากเราเตอร์ offline ระหว่างการทำธุรกรรม เงินของผู้ใช้จะถูกล็อคได้นานถึง 72 ชั่วโมง ข้อกำหนดด้าน Strict Liveness นี้เพิ่มความยากในการเป็นเราเตอร์

4. Gas Griefing : ผู้ใช้หรือเราเตอร์สามารถยกเลิกธุรกรรมร่วมกันได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น จะไม่มีกลไกที่ชัดเจนในการจ่ายค่าแก๊สล่วงหน้า

ข้อมูลและรูปภาพจาก https://blog.connext.network/announcing-the-amarok-network-upgrade-5046317860a4